สา'สุขกรุงเก่า : ชวนประชาชน “รับปีใหม่ปลอดภัย” เน้น 3 ม. 2 ข. 1 ร. เว็บไซต์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ภาพ logo website จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

สา'สุขกรุงเก่า : ชวนประชาชน “รับปีใหม่ปลอดภัย” เน้น 3 ม. 2 ข. 1 ร.

ผู้เขียน:  พัชรี วงษ์บัวทอง จาก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เมื่อวันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 11:03 น.

 อ่าน 5,850

 

นพ.สมพงษ์ บุญสืบชาติ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยถึง สถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ปีที่ผ่านมาของจังหวัดพระนครศรี อยุธยา ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2554 ถึงวันที่ 4 มกราคม 2555  ซึ่งมีผู้บาดเจ็บ 457 ราย และมีผู้เสียชีวิตถึง 11 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดคือการเมาสุราในขณะขับขี่ และยานพาหนะที่เกิดเหตุมากที่สุดคือ รถจักรยานยนต์

 

ในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ นอกจากบรรยากาศแห่งความสนุกสนาน และความอบอุ่นที่ทุกครอบครัวจะได้สัมผัสแล้ว แต่ในขณะที่บางครอบครัวต้องเผชิญถึงความโศกเศร้าเสียใจ เพราะมีสมาชิกในครอบครัวได้รับอุบัติเหตุทางท้องถนน ซึ่งสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุนั้น ได้แก่ การขับรถเร็วเกินอัตรากำหนด ตัดหน้ากระชั้นชิด แซงรถผิดกฏหมาย ตามกระชั้นชิด ฝ่าฝืนสัญญาณ ไม่ให้สัญญาณไฟ ขับรถผิดช่องทาง ฝ่าฝืนป้ายหยุดทางแยก

และไม่ขับขี่รถในช่องทางซ้ายสุด เพื่อให้ตนเองและผู้อื่นปลอดภัยจากการใช้รถใช้ถนน ประชาชนควรมีส่วนร่วมรณรงค์ ด้วยหลักความปลอดภัยง่ายๆ ตามแนวทาง “3 ม. 2 ข. 1 ร.” ดังนี้

 

. ที่ 1 เมาไม่ขับ สุรามีฤทธิ์ต่อการทำงานของระบบประสาท ทำให้การทำงานของร่างกายช้าลงจึงทำให้ความสามารถในการขับขี่ลดลง ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น

 

ม. ที่ 2 สวมหมวกนิรภัย การที่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สวมหมวกนิรภัยที่ได้มาตรฐานและถูกวิธีจะช่วยลดการบาดเจ็บที่ศรีษะได้มากกว่าผู้ที่ไม่สวมถึง 5 เท่า

 

ม. ที่ 3 มอเตอร์ไซต์ปลอดภัย การนำรถที่มีสภาพมั่นคงแข็งแรงและมีอุปกรณ์ต่างๆ สมบูรณ์ครบถ้วนมาใช้ในการเดินทางจะสามารถช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้ 

 

ข. ที่ 1 ใบขับขี่ ต้องมีใบอนุญาตขับขี่ เพื่อที่จะได้มีความรู้ในการขับขี่ที่ถูกต้อง มีความปลอดภัยทั้งต่อตนเองและผู้อื่น

 

ข. ที่ 2 คาดเข็มขัดนิรภัย การคาดเข็มขัดนิรภัยสามารถช่วยลดความรุนแรงจากการบาดเจ็บในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุได้

 

ร. ที่ 1 ขับรถเร็ว การขับขี่รถด้วยความเร็วสูงทำให้ความสามารถในการทรงตัวของรถน้อยลง ระยะเวลาในการตัดสินใจจะน้อยลง และความรุนแรงของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจะสัมพันธ์กับความเร็วของรถ

นพ.สมพงษ์ กล่าวต่อว่า นอกจากมาตรการ 3 ม. 2 ข. 1 ร.” แล้วผู้ขับขี่รถทุกชนิดควรตระหนักถึงอีกคือ 1 ย. คือ การขับรถย้อนศร โดย เฉพาะผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์และรถจักรยานที่ไม่ติดสัญญาณไฟทั้งหน้าและ หลัง ไม่ควรเป็นอย่างยิ่งที่จะขับรถย้อนศร ยังไม่รวมไปถึงการแซงในที่คับขัน การขับรถฝ่าสัญญาณไฟแดงและการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถอีกด้วย หากพบเห็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนท้องถนน ประชาชนสามารถให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุด้วยการแจ้งไปที่ สายด่วน 1669 ซึ่งเปิดบริการสำหรับรับแจ้งอุบัติเหตุ เจ็บป่วยฉุกเฉินที่ให้บริการ 24 ชั่วโมง ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายในการออกมาบริการประชาชนแต่อย่างใด


คำค้นหา
 
comments powered by Disqus
ข่าวในประเภทประชาสัมพันธ์
ข่าวโดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ข่าวล่าสุด
สนใจมากสุดในรอบเดือน
เข้าชมล่าสุด