วันนี้( 7 ส.ค.58) เวลา 07.30 น. ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายกฤษณพล ณ ถลาง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาเนื่องในวันรพี ประจำปี 2558 เพื่อสดุดีเทิดพระเกียรติ พระบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ "พระบิดาแห่งกฎหมายไทย” โดยมี นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมบัติ ชูชัยยะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา ว่าที่ร้อยตรีสมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา ส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ คณะอาจารย์ และ นักศึกษา หน่วยงานกระบวนการยุติธรรมและผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าร่วมงานกว่า 200 คน
นายกฤษณพล ณ ถลาง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า สำหรับการจัดกิจกรรมวันรพี ประจำปี 2558 จัดขึ้นเพื่อเป็นการสดุดีเทิดพระเกียรติ พระบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ "พระบิดาแห่งกฎหมายไทย” เนื่องในวันคล้ายวันพระสิ้นพระชนม์ของพระองค์ท่าน ซึ่งศาลจังหวัดนครศรีอยุธยา ได้จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นเป็นประจำทุกปี เช่นเดียวกับในปีนี้ โดยได้นิมนต์พระสงฆ์จำนวน 9 รูป นำโดย พระเทพรัตนากร เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาประกอบพิธีทางศาสนา นอกจากนี้ยังมีพิธีวางพวงมาลาหน้าพระรูป
ในโอกาสนี้ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ย้ำให้นักกฎหมาย และประชาชนตระหนักว่าการพัฒนากฎหมาย และการศึกษาในบ้านเมืองมีพื้นฐานมาจากสติปัญญา และความทุ่มเทของพระองค์ ดังนั้น นักกฎหมายทุกคนต้องยึดถือแบบอย่าง และธำรงไว้ซึ่งความเป็นธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริตทั้งต่อตนเองและผู้อื่นเนื่องด้วยวันที่ 7 สิงหาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธ์ ซึ่งบรรดานักนิติศาสตร์ทั้งมวลได้เทิดทูนพระองค์เป็นพระบิดาแห่งกฎหมายไทย และได้ร่วมกันกำหนดวันนี้เป็น “วันรพี”
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรี-ดิเรกฤทธิ์ ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 14 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า-เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 กับเจ้าจอมมารดาตลับ ประสูติเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พุทธศักราช 2417 เมื่อทรงพระเยาว์ทรงเข้ารับการศึกษาวิชาภาษาไทยและภาษาอังกฤษจนรอบรู้เชี่ยวชาญ ในปลายปีพุทธศักราช 2431 ได้เสด็จไปทรงศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษโดยทรงศึกษาวิชากฎหมาย ณ สำนักไครสต์เชิร์ช มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ทรงสอบไล่ได้ปริญญาตรีเกียรตินิยมทางกฎหมายในเวลา 3 ปี ในขณะที่มีพระชันษาเพียง 20 ปี แล้วได้เสด็จกลับมารับราชการในประเทศไทย
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงยุติธรรม เมื่อพุทธศักราช 2439 ตลอดเวลา 14 ปี ทรงดำเนินกิจการงานราชการของกระทรวงยุติธรรมด้วยความรู้และ พระปรีชาสามารถกับทั้งพระอุตสาหะเข้มแข็ง ยังผลให้งานราชการของกระทรวงยุติธรรมเจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็ว พระองค์ทรงจัดให้มีการรวบรวมชำระสะสาง จัดวางบทบัญญัติแห่งกฎหมายให้ทันสมัย เพียงพอแก่ความต้องการของบ้านเมืองและสังคม และทรงบังคับใช้บทบัญญัติแห่งกฎหมายนั้นๆ ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี บังเกิดผลให้การพิจารณาพิพากษาอรรถคดีทั้งปวงของศาลสถิตยุติธรรมดำเนินไป อย่างมีระเบียบ สะดวก รวดเร็ว และเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วราชอาณาจักร มีความเจริญทัดเทียมกับเหล่านานาอารยประเทศ และให้มวลเหล่าประชาราษฎร์ได้รับความยุติธรรมโดยทั่วหน้ากันยิ่งขึ้น
ข้อมูลจาก
https://www.facebook.com/pages/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7/415068145306954