อ่าน 6,137
สุดทึ่งเป็นประติมากรรมทางธรรมชาติผสม ผสานกับโบราณสถาน กลายเป็นต้นโพธิ์ปรกเจดีย์ หนึ่งเดียวในโลก อันซีนแห่งใหม่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลบซ่อนอยู่ด้านหลังอุโบสถวัดหน้าพระเมรุฯ มานานนับร้อยปี นักท่องเที่ยวพึ่งทราบเริ่มแห่เข้าชมถ่ายภาพกันคึกคัก
วันนี้(2/3/53) เวลา 13.00 น. ที่บริเวณด้านหลังพระอุโบสถวัดหน้าพระเมรุฯ ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา มีสิ่งแปลกประหลาดที่เกิดจากการรังสรรค์ของธรรมชาติระหว่างต้นโพธิ์ต้นขนาด ใหญ่ที่เมล็ดงอกเจริญเติบโตอยู่บนพระเจดีย์เก่าแก่ก่อด้วยอิฐถือปูนทรงระฆัง คว่ำมานานกว่า 70 -100 ปี โดย เจดีย์ดังกล่าวสูง 19 เมตร ฐานก่ออิฐสี่เหลี่ยม ตั้งอยู่ด้านหลังพระอุโบสถของวัดหน้าพระเมรุ เรียงอยู่ด้วยกัน 3 องค์ มีอยู่องค์หนึ่ง คาดว่าเป็นพระเจดีย์องค์ประธาน เนื่องจากยกตัวฐานเจดีย์สูงกว่า เจดีย์องค์อื่น และเจดีย์องค์นี้มีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่เท่ากับ 4 คนโอบ ขึ้นอยู่บนยอดของเจดีย์ ส่วนโคนของต้นโพธิ์จะขึ้นอยู่ช่วงบริเวณคอระฆังของเจดีย์ ลำต้นเจริญงอกงามปรกคลุมยอดเจดีย์ไว้จนมิด แผ่กิ่งก้านสาขาอย่างสวยงาม ส่วนรากแก้วของต้นโพธิ์จะเกาะชอนไชไปตามองค์ของพระเจดีย์ ยาวตั้งแต่โคนต้นช่วงคอระฆังลงมาจนถึงฐานของเจดีย์ อย่างสวยสดงดงามสุดจะพรรณนา นอกจากนี้ยังพบว่าเศียรพระพุทธรูปเก่าแก่เนื้อหินทรายโบราณถูกรากของต้น โพธิ์ปรกคุมไว้อย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อมองในระยะไกลคล้ายกับเป็นเจดีย์มหาโพธิ์ต้นใหญ่สำหรับวัด หน้าพระเมรุเป็นวัดเก่าแก่สร้างขึ้นมาในสมัยกรุงศรีอยุธยา ราวปี พ.ศ. 2047 นับถึงปัจจุบันมีอายุประมาณ 506 ปี และ เป็นวัดเดียวที่ไม่ถูกกองทัพพม่าเผาทำลายเมื่อคราวกองทัพพม่ายกทัพมาตีกรุง ศรีอยุธยา จนเสียกรุงศรีอยุธยาเป็นครั้งที่ 2 ปัจจุบันเป็นโบราณสถานสำคัญทีมีความสมบูรณ์ แต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมไหว้พระเป็นจำนวนมากทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ ส่วนเจดีย์ที่ต้นโพธิ์ปรกคลุม สันนิษฐานว่าเป็นเจดีย์ทั้ง 3 องค์ รวมทั้งเจดีย์ที่โพธิ์ปรก เป็นเจดีย์ที่ที่ใช้สำหรับบรรจุอัฐิหรือบรรจุกระดูกของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ มีอายุเก่าแก่เท่ากับการก่อสร้างวัดที่ยังคงอยู่ให้เห็นถึงปัจจุบันพระ ครูโกศลธรรมโสภิต รองเจ้าอาวาส หรือ พระอาจารย์อ๊อด กล่าวว่า เจดีย์ที่ต้นโพธิ์ปรกอยู่มีอายุเก่าแก่คู่มากับวัด ส่วนต้นโพธิ์ที่ขึ้นปรกคลุมองค์พระเจดีย์มีมานานกว่า 70-100 ปี เพราะได้รับการบอกเล่ามาจากคนแก่คนเฒ่า เดิมทีบริเวณดังกล่าวเป็นป่ารกไม่มีใครสนใจต้นโพธิ์ที่ขึ้นเกิดจากธรรมชาติ ที่บรรดาฝูงนกไปกินลูกโพธิ์ถ่ายมูลเมล็ดติดทิ้งอยู่บนเจดีย์งอกเจริญเติบโต เหมือนกับที่เราพบเห็นตามตึกตามเจดีย์ทั่วไป เมื่อปล่อยทิ้งไว้ก็จะมีสภาพอย่างที่เห็นแต่ไม่พบว่ามีต้นโพธิ์ต้นใดเจริญ เติบโตงอกงามเท่ากับโพธิ์ปรกเจดีย์ของวัดหน้าพระเมรุ ส่วน เศียรพระพุทธรูปที่ต้นโพธิ์ปรกคลุมอยู่เป็นเศียรพระพุทธรูปเนื้อหินทรายเก่า แก่ ที่ชาวบ้านไปเก็บไว้ แต่เกิดเรื่องสิ่งเลวร้ายในบ้านในครอบครัวเสมอ จึงได้นำเศียรพระพุทธรูปมาถวายวัด และนำไปวางทิ้งไว้บนเจดีย์โคนต้นโพธิ์ เมื่อต้นโพธิ์เจริญเติบโตรากได้ปรกคลุมเศียรพระพุทธรูปไว้อย่างที่พบเห็น ที่ผ่านมาไม่มีใครสนใจจนกระทั้งทางวัดเข้าไปบูรณะเก็บกวาด จนโดดเด่นขึ้นมาเริ่มเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว นับว่าเป็นสิ่งแปลกประหลาดอีกสิ่งหนึ่งในเมืองไทยหรือในโลก ต่อไปจะส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของวัดและของจังหวัดต่อไป
ที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
http://ndc.prd.go.th/pageconfig/viewcontent/viewcontent1.asp?pageid=449&directory=2017&contents=260597
คำค้นหา