มท1. ลงพื้นที่ อ.ท่าเรือตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุสะพานแขวนข้ามแม่น้ำป่าสักพังถล่มเว็บไซต์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ภาพ logo website จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

มท1. ลงพื้นที่ อ.ท่าเรือตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุสะพานแขวนข้ามแม่น้ำป่าสักพังถล่ม

ผู้เขียน:  ปราณี แจ่มแจ้ง จาก สำนักงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เมื่อวันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 09:36 น.

 อ่าน 3,676

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะผู้เชี่ยวชาญจากกรมทางหลวงตรวจสอบสาเหตุสะพานแขวน 200 ปีที่อำเภอท่าเรือ ถล่มลงมา ขณะที่สะพานแขวนอีกแห่งชาวบ้านผวาไม่กล้าใช้ ต้องปิดตาย

โดยเมื่อเวลา  ๑๗.๐๐  น.  โดยประมาณ  ของวันที่  ๒๘  เมษายน  ๒๕๕๖  เกิดเหตุสะพาน ๒๐๐ ปี (สะพานแขวน)  ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้พังถล่ม ซึ่งเป็นสะพานแขวนที่มีความยาว ๑๑๐ เมตร กว้าง ๒.๒๐ เมตร ซ่อมแซมครั้งล่าสุดช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ โดยใช้งบของเทศบาลตำบลท่าหลวง ตั้งอยู่ระหว่างหมู่ที่ ๕ และหมู่ที่ ๖ (คลองที่ใช้ขนส่ง  ทางเรือของโรงงานปูนซีเมนต์ท่าหลวง) ที่ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ                ที่ใช้สัญจรไป–มา ของรถจักรยานยนต์และการเดินเท้าของประชาชนจำนวนมาก

 

และในวันที่ 29 เมษายน 2556  นายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยคณะผู้เชี่ยวชาญด้านสะพานจากกรมทางหลวงและหน่วยงานที่เกี่ยงข้อง เข้าทำการตรวจสอบสะพานแขวน 200 ปี ฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ ที่อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พังถล่มลงมา เมื่อเย็นวานที่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต รวม 4 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 23 คน

นายจารุพงษ์ กล่าวว่าจะเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ทำให้สะพานถล่ม ซึ่งจะใหผู้เชี่ยวชาญด้านสะพานของกรมทางหลวง ที่มีความรู้ด้านโครงสร้างสะพานเข้ามาตรวจสอบและหาสาเหตุ โดยมีทหารจากจังหวัดทหารบกสระบุรี และ กำลังทหารจาก ม.พัน 11 รักษาพระองค์ เข้ามาสนับสนุน พร้อมกับเรือท้องแบน เตรียมกู้ซากสะพานที่เป็นแผ่นกรีตหนา กว่า 10 เซ็นติเมตร ท่อนเหล็ก ที่ยังทับทรัพย์สินส่วนใหญ่จะเป็นซากรถ จยย. ของผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยจะนำรถเครนเข้ามาสนันสนุนยกอยู่ด้านบน 

ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บขณะนี้ ยังนอนรักษาตัวตามโรงพยายาลต่างๆใน 8 โรงพยาบาล จำนวน 13 คน และเกือบทุกคนอาการปลอดภัยแล้ว มีเพียงนาย นเรศ นิรันด์สุข อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นลุงของ เด็กหญิงพิริยาพร เสือสมิง อายุ 10 ปี ที่เสียชีวิตจากเหตุสะพานถล่ม ยังคงอาการหนักจากโรคหัวใจ กระดูกซี่โครงหัก นอนรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ไอซียู รพ.ราชธานี 

ขณะสะพานแขวนข้ามแม่น้ำป่าสักอีกแห่งหนึ่ง เชื่อมระหว่างวัดสะตือกับวัดไก่จันกับท้ายเขื่อนพระราม  6 นั้น นายจรัล สิงห์เจริญ อายุ 54 ปี ชาวบ้านชุมชนวัดสะตือ พาไปตรวจสอบสภาพสะพาน ซึ่งมีลักษณะ ขนาด อายุ และผู้รับเหมาคนเดียวกัน พบว่ามีสภาพชำรุดแล้วเช่นกัน ปลอกพีวีซีป้องกันลวดสลิงแตกร้าว น้ำขังเกิดสนิม คอสะพาน และ เสาค้ำลวดสลิงแตกร้าว ซึ่งอยู่ห่างจ่ากสะพาน 200 ปี ที่ถล่มประมาณ 500 เมตร อยู่ในสภาพอันตรายเช่้นเดียวกัน ชาวบ้านต่่างหวาดผวาไม่กล้าใช้ต้องปิดตาย และทางเทศบาลตำบลท่าหลวงได้แจ้งให้ชาวบ้านหยุดใช้ชั่วคราวแล้วในขณะนี้

ด้าน นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สั่งการให้ ปภ.จังหวัด ดำเนินการประสานงานกับกำลังทหารจากจังหวัดทหารบกสระบุรี เข้าเคลื่อนย้ายรถเครนและเรือท้องแบน เพื่อเตรียมความพร้อมกู้ซากสะพานระลอกที่ 2 หลังจากหยุดกุเมื่อเวลา 22.00 น.คืนวานนี้  ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแผ่นคอนกรีตขนาดใหญ่ และพื้นสะพานทับทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นรถ จยย.ของผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตจมอยู่ใต้น้ำ

เบื้องต้นทำให้มีผู้เสียชีวิต  ๔  ราย  เป็นชาย ๒ ราย และหญิง ๒ ราย และมีผู้บาดเจ็บ ๒๓ ราย

  รายชื่อผู้เสียชีวิตดังนี้

  - ด.ญ. ศิริญาพร  เสือสมิง  อายุ  ๑๐  ปี    ที่อยู่  ตำบลท่าหลวง

  - นางเกษสินี  ชบาศรี  อายุ  ๕๓  ปี  ที่อยู่  ตำบลท่าหลวง

  - นายณัฐวุฒิ  ใจจง  อายุ  ๒๔  ปี    ที่อยู่  ตำบลท่าหลวง

  - นายสามารถ  ญาณปัญญา  อายุ  ๓๔  ปี    ที่อยู่  อำเภอเสาไห้

โดยในช่วงค่ำของวันที่ 28 เมษายน 2556 ที่ผ่านมา นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้เข้าเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุ สะพาน 200 ปี ที่ อ.ท่าเรือ ขาด ณ โรงพยาบาลท่าเรือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา

 

ในส่วนการให้ความช่วยเหลือนั้น ทางศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 1 ปทุมธานี จัดชุด ERT เข้าพื้นที่ และจัดรถไฟฟ้าส่องสว่าง และballoon light สนับสนุนการค้นหา และช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด อำเภอ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กู้ชีพทางนามูลนิธิฯ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นในที่เกิดเหตุ และนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล ซึ่งทางกาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเบื้องต้นรายละ 3,000 บาท ขณะที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จ่ายช่วยเหลือทายาทผู้เสียชีวิต รายละ 25,000 บาท 

นายจารุพงศ์  กล่าวภายหลัง การตรวจมสะพานข้ามแม่น้ำป่าสักว่า  ได้กำชับให้สำนักงานโยธาธิการจังหวัดฯ รื้อสะพานดังกล่าวให้แล้วสร็จภายใน 2 วัน ประกอบกับ ออกสำรวจสะพานทุกแห่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมประกาศอนุญาตให้รถมอเตอร์ไซค์  และคนเดิน ใช้เท่านั้น ห้ามรถ 3 ล้อเครื่อง รถยนต์  และรถขนาดใหญ่ วิ่งผ่าน  รวมถึง ให้ก่อสร้างขอบเขตของสะพานทุกแห่งให้แข็งแรง  เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเศร้าสลดซ้ำอีก ส่วนสาเหตุของสะพานพังถล่ม  เกิดจากลวดสลิงตรงหัวสะพานขาดไป 1 เส้น จาก 12 เส้นที่เป็นตัวยึด  ทำให้ลวดสลิงอีกด้านหนึ่งรับน้ำหนักไม่ไหว จึงทำให้พังถล่มลงมา

  หลังจากนั้น รมว. หาดไทยได้เดินทางไปให้กำลังใจผู้ป่วยที่โรงพยาบาลท่าเรือและโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา เร่งประกันสังคมจ่ายเงินประกันสังคมให้กับผู้เสียชีวิตจากเหตุสะพานแขวนพังถล่มโดยเร็ว
         นางชลอลักษณ์   แก้วพวง   ประกันสังคมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  เปิดเผยว่า  ได้สำรวจผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุสะพานแขวนที่ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ  พังถล่ม พบว่า นายสามารถ ญาณปัญญา  และนายณัฐวุฒิ  ใจจง  เป็นผู้ประกันตนเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวจะได้รับสิทธิค่าจัดการศพรายละ 40,000  บาท เงินสงเคราะห์กรณีตาย 37,201 บาท และเงินบำเหน็จชราภาพอีก 34,612 บาท รวมเกือบ 120,000 บาท  นางเกศินี ชบาศรี ได้รับสิทธิฯ เป็นเงิน 80,000  บาท รวมกับผลประโยชน์ตอบแทนอีกส่วนหนึ่ง  ส่วนผู้บาดเจ็บเข้าโรงพยาบาลบัตรรับรองสิทธิจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ 

ที่มา  http://www.dailynews.co.th/thailand/200801

        http://www.krobkruakao.com


คำค้นหา
 
comments powered by Disqus
ข่าวในประเภทประชาสัมพันธ์
ข่าวโดยสำนักงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ข่าวล่าสุด
สนใจมากสุดในรอบเดือน
เข้าชมล่าสุด