บริษัทจดทะเบียนไทยทำกำไรสูงสุดในอาเซียนเว็บไซต์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ภาพ logo website จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

บริษัทจดทะเบียนไทยทำกำไรสูงสุดในอาเซียน

ผู้เขียน:  เจ้าหน้าที่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จาก สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เมื่อวันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 09:14 น.

 อ่าน 2,129
บริษัทจดทะเบียนไทยทำกำไรสูงสุดในอาเซียน
      ตลาดหลักทรัพย์ ปลื้ม! บริษัทจดทะเบียนไทยกำไรดีเยี่ยมสูงสุดในอาเซียน หลังใช้กลยุทธ์เข้าถึงกลุ่มลูกค้า พร้อมปรับแผนลุยอาเซียนมากขึ้น
 
      นายยศพล พิริยะพฤนท์ ฝ่ายกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนไทย สามารถทำกำไรได้สูงอย่างต่อเนื่อง และมีอัตรากำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่สูงกว่าอัตราเติบโตของเศรษฐกิจใน ประเทศรวมเงินเฟ้อ (นอมินอล จีดีพี) ถึง 1.8 เท่า ซึ่งเป็นอัตราสูงที่สุดในอาเซียน ขณะที่ฟิลิปปินส์เติบโตเพียง 1.4 เท่า,อินโดนีเซีย 0.6 เท่า และมาเลเซีย 0.5 เท่า โดยบริษัทจดทะเบียนไทย สามารถกำหนดการดำเนินงานที่ชัดเจน เพื่อเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการที่เข้าถึงผู้บริโภค ทั้งในและต่างประเทศได้อย่างตรงจุด ทำให้ธุรกิจเติบโตได้ดี ทั้งด้านขนาด และความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้น
 
    สำหรับกลุ่มที่มีกลยุทธ์การดำเนินงานที่โดดเด่น ได้แก่ กลุ่มธุรกิจจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม,กลุ่มอสังหาริมทรัพย์,กลุ่ม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร,กลุ่มการให้บริการทางการแพทย์ รวมถึงธุรกิจเครื่องสำอางและความงาม โดยตั้งแต่ปี 2553-2557 บริษัทจดทะเบียนไทยในกลุ่มธุรกิจที่มีความโดดเด่นสูง มีอัตราการเติบโตที่สะท้อนผ่านมูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) และด้านความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้น ซึ่งการเติบโตของมาร์เก็ตแคปสูงถึง 144% จาก 1.8 ล้านล้านบาทในปี 2553 เป็น 4.4 ล้านล้านบาทในปี 2557 ในขณะที่ความสามารถในการทำกำไรพบว่ามีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิสูงถึง 75% จาก 117,000 ล้านบาทในปี 2553 เป็น 205,000 ล้านบาทในปี 2557
 
      ตั้งแต่หลังวิกฤตเศรษฐกิจโลกในปี 2551 ธุรกิจไทยปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับแนวโน้มทางธุรกิจ เช่น เปลี่ยนตลาดส่งออกจากเดิมที่สัดส่วนการส่งออกของไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ เวียดนาม, ลาว, เมียนมา และกัมพูชา จากปี 48 อยู่ที่ 4.3% เพิ่มขึ้นเป็น 9.1% ในปี 2557 ในขณะที่พึ่งพาการส่งออกไปยังตลาดหลักเดิมคือ สหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่นเริ่มมีปริมาณที่ลดลง
 
    นอกจากนี้บริษัท จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ที่ประกอบธุรกิจพลังงานทางเลือก เป็นอีกกลุ่มที่มีผลประกอบการเติบโตอย่างโดดเด่น โดยการเล็งเห็นความต้องการของภาครัฐ ที่ต้องการสนับสนุนธุรกิจพลังงานทางเลือกให้เติบโต เพื่อรองรับความต้องการทางพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นอัน เนื่องมาจากการขยายตัวของเมือง และจำนวนประชากร รวมไปถึงต้องการสนับสนุนการผลิตพลังงานสะอาด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงเร่งการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทางเลือก และปิดใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2557 ที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทจดทะเบียนอันดับต้นๆของกลุ่มดังกล่าวสามารถสร้างผลกำไรเติบโต สูงถึง 471%
 
โดย www.bangkokbiznews.com วันที่ 12 มิถุนายน 2558

คำค้นหา
 
comments powered by Disqus
ข่าวในประเภทข่าวอาเซียนทั่วไป
ข่าวโดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ข่าวล่าสุด
สนใจมากสุดในรอบเดือน
เข้าชมล่าสุด