วันนี้ (๒๖ ก.ค. ๕๔) นางปรียา ปาลิโพธิ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เข้าประชุมชี้แจงร่วมกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อซักซ้อมความเข้าใจ ก่อนออกตรวจสอบธุรกิจรถยนต์ใช้แล้ว ณ ห้องประชุม ๓ ชั้น ๔ ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ปัจจุบันนี้ ถ้าพูดถึงเรื่องของรถยนต์แล้ว ถือได้ว่าเป็นปัจจัยที่ห้าเลยก็ว่าได้ เพราะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง จึงทำให้ผู้บริโภคต้องการหาซื้อรถยนต์ส่วนตัวมาใช้กันมากขึ้น สำหรับผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อไม่มากรถยนต์มือสองก็เป็นทางเลือกที่มีราคาไม่สูงเท่ากับรถใหม่ป้ายแดง จึงทำให้ธุรกิจเต็นท์รถมือสองได้รับความนิยมอย่างมาก และเนื่องจากที่ผ่านมาปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ส่วนใหญ่ผู้บริโภคไม่ทราบข้อเท็จจริงหรือข้อมูลของรถยนต์มือสองที่เต็นท์รถนำออกมาขายทำให้เสี่ยงกับการตัดสินใจซื้อรถยนต์โดยเฉพาะกรณีที่เกิดความชำรุด ซึ่งถือว่าเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหรือ สคบ. ได้รับข้อร้องเรียนในเรื่องปัญหาจากการซื้อรถยนต์มือสอง เข้ามาเป็นจำนวนมาก จึงได้ออกมาซักซ้อมความเข้าใจในการดำเนินธุรกิจ ผู้ประกอบการเต็นท์รถมือสองให้ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดโดยเฉพาะหลักฐานการรับเงินและการทำฉลากให้ถูกต้อง
สำหรับผู้ที่มองหารถยนต์มือสองอยู่ สคบ.มีข้อแนะนำในการเลือกซื้อดังนี้ ดูใต้ท้องรถ เช่น คัตซี มีการตัดต่อหรือเปล่า ยางหุ้มต่างๆและรอยน้ำมันที่อาจจะรั่วหรือซึม โดยดูจากสถานที่ที่รถจอดอยู่ว่ามีรอยน้ำ หรือน้ำมันที่พื้นหรือไม่และที่สำคัญคือดูว่ารถเคยเกิดอุบัติเหตุมาหรือไม่จะใช้หลักง่ายๆคือ “ดูที่ตะเข็บ”โดยรถที่ออกจากโรงงานรอยตะเข็บต่างๆจะดูเป็นระเบียบแต่ถ้าชนมาและมีการซ่อม รอยตะเข็บจะดูไม่เรียบร้อย และนี่ก็เป็นหลักง่ายๆของการเลือกซื้อรถยนต์มือสองของผู้บริโภคเพื่อที่จะไม่โดนหลอก และที่สำคัญคือเพื่อให้ได้รถมือสองที่ดีและมีคุณภาพ คุ้มค่ากับเงินที่เราต้องเสียไป