นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังการหารือกับนายจู เสี่ยวดาน ผู้ว่าการมณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ว่า ผู้ว่ามณฑลกวางตุ้งสนใจที่จะนำธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) ขยายฐานการผลิตไปตลาดต่างประเทศมากขึ้นตามนโยบายรัฐบาลจีน ทั้งนี้ ต้นทุนการผลิตในจีนทั้งค่าจ้างขั้นต่ำ วัตถุดิบและพื้นที่เพิ่มขึ้นมาก เบื้องต้นจีนสนใจตั้งฐานการผลิตของเอสเอ็มอีในไทยเพื่อส่งออกไปยังตลาดจีนและอาเซียนภายหลังจากเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) แล้ว
ทั้งนี้ ได้แนะนำให้นำเอสเอ็มอีเข้าไปดูลู่ทางการลงทุนตามนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ ของไทย รวมถึงการลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษที่รัฐบาลได้เพิ่มสิทธิพิเศษการลงทุนจำนวนมาก โดยเฉพาะการตั้งโรงงานผลิตยางรถยนต์ในจังหวัดสงขลา ในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษและโครงการเมืองยาง (รับเบอร์ ซิตี้) เพราะเป็นพื้นที่ที่มียางพารา ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าจำนวนมากและเพียงพอต่อปริมาณการผลิตยางรถยนต์
เป็นเรื่องดีที่เอสเอ็มอีจีนจะย้ายฐานการผลิตมาต่างประเทศมากขึ้นเพื่อหนีต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นภายในจีน ซึ่งไทยมีความพร้อมในหลาย ๆ ด้านเพื่อรองรับโรงงานที่จะเข้ามาลงทุน ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน นิคมอุตสาหกรรม เขตเศรษฐกิจพิเศษและการขนส่งสินค้าไปยังตลาดต่าง ๆ ได้ง่าย"
ขณะเดียวกันทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะสนับสนุนให้เพิ่มเที่ยวบินจากเมืองกวางโจว ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ในมณฑลกวางตุ้งกับกรุงเทพฯ จากปัจจุบันที่มีวันละ 2 เที่ยวบิน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาท่องเที่ยวในไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงรองรับนักธุรกิจที่จะเข้ามาเจรจาการค้าการลงทุนในไทย แต่ต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง
ปัจจุบันเมืองกวางโจวในมณฑลกวางตุ้งเป็นศูนย์กลางสาขาบริษัทการเงินและธุรกิจขนาดใหญ่จากทั่วโลก หากมีการส่งเสริมการค้าของทั้งสองฝ่ายให้มากขึ้นจะเป็นผลดีต่อไทย โดยการค้าไทย-กวางตุ้งช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ขยายตัวถึง 9.5%