43 บริษัทญี่ปุ่นร่วมแมชชิ่งธุรกิจหวังใช้ไทยเป็นศูนย์กลางรุกอาเซียนเว็บไซต์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ภาพ logo website จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

43 บริษัทญี่ปุ่นร่วมแมชชิ่งธุรกิจหวังใช้ไทยเป็นศูนย์กลางรุกอาเซียน

ผู้เขียน:  เจ้าหน้าที่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จาก สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เมื่อวันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 14:56 น.

 อ่าน 1,423

43 บริษัทญี่ปุ่นร่วมแมชชิ่งธุรกิจหวังใช้ไทยเป็นศูนย์กลางรุกอาเซียน

      นายมาซายาสุ โฮซูมิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร กรุงเทพฯ) เปิดเผยว่า นักธุรกิจญี่ปุ่นยังให้ความสนใจเข้ามาลงทุนทำธุรกิจในไทยอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจไทยในช่วงที่ผ่านมาจะชะลอตัวลง ทั้งนี้ เพราะมั่นใจว่าไทยจะเป็นศูนย์กลางในอาเซียน พร้อมกับวางให้ไทยเป็นฐานการทำตลาดไปในประเทศเพื่อนบ้านต่อไป

    นอกจากนี้ ปัจจัยบวกด้านจำนวนประชากรชนชั้นกลางของไทยที่เพิ่มขึ้น ค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับขึ้น ประชากรจึงมีกำลังซื้อที่ดีขึ้น ทำให้ไทยกลายเป็นประเทศที่นักธุรกิจญี่ปุ่นสนใจเข้ามาลงทุนเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน ตามด้วยอินโดนีเซียและเวียดนาม โดยเฉพาะธุรกิจการผลิตมีสัดส่วน 60% ได้แก่ การผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และอีก 36% เป็นธุรกิจบริการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจอาหาร ที่เหลืออีก 4% เป็นอื่น ๆ ขณะที่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีในช่วงปลายปีทำให้นักธุรกิจสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศเมียนมา กัมพูชา หรือกระทั่งลาว นอกเหนือจากไทย ซึ่งธุรกิจที่เข้าไปลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มธุรกิจสินค้าเกษตร เครื่องสำอาง อะไหล่เครื่องจักร ก่อนหน้านี้เจโทรได้เข้าไปจัดงานเจรจาการค้าในสิงคโปร์ มาเลเซีย ก็ได้รับการตอบรับที่ดี

          สำหรับการจัดงานกู๊ด กู๊ด เจแปน เจโทร บิซิเนส แมตชิ่ง ที่ไทย ในวันที่ 8 ตุลาคม 2558 นี้ มีนักธุรกิจเอสเอ็มอีญี่ปุ่นเข้าร่วมงาน 43 บริษัท ในจำนวนนี้เป็นบริษัทใหม่ถึง 28 บริษัท และมีสินค้ามากกว่า 300 รายการ เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มี 34 บริษัท สินค้า 300 รายการ สินค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเครื่องใช้ภายในครัวเรือน เครื่องสำอาง เสื้อผ้า คาดว่าจะมีนักธุรกิจไทยเข้าร่วม 100-150 ราย โดยจะมีนักธุรกิจจากสิงคโปร์ มาเลเซีย มาเยี่ยมชมภายในงาน 6 บริษัทด้วย

     ทั้งนี้ โอกาสของสินค้าญี่ปุ่นในตลาดไทยยังมีศักยภาพเติบโตได้อีกมาก เพราะคนไทยชื่นชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่น นิยมซื้อสินค้าจากญี่ปุ่น ซึ่งพบว่าธุรกิจที่เข้ามาลงทุนในไทยในปีที่ผ่านมาเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่สัดส่วน 50% และธุรกิจเอสเอ็มอี 50% โดยมีบริษัทที่เข้ามาถือหุ้นในไทยเกิน 10% ราว 4,567 บริษัท และเข้ามาจดทะเบียนเพื่อจัดตั้งบริษัท 415 บริษัท เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากเมื่อปี 2548-2552 มีเพียง 297 บริษัท

         นอกจากนี้ เจโทรยังเดินหน้าส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอีในญี่ปุ่นให้มีการเติบโตได้อย่างยั่งยืน และสามารถขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศได้ อาทิ ธุรกิจสินค้าเกษตรและกลุ่มอาหารมากเป็นพิเศษ หรือกระทั่งกลุ่มผู้ประกอบการที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า หรือผู้ผลิตที่มีโนว์ฮาวที่ดี สำหรับโครงการเจรจาคาราวานเป็นโครงการส่งเสริมการเปิดตลาดในเอเชียของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีปีนี้มีกำหนดจัดงาน 3 ประเทศ ได้แก่ จีน ไทย และเวียดนาม


คำค้นหา
 
comments powered by Disqus
ข่าวในประเภทข่าวอาเซียนทั่วไป
ข่าวโดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ข่าวล่าสุด
สนใจมากสุดในรอบเดือน
เข้าชมล่าสุด